รีวิว THE BIG 4 อดีตแก๊งนักฆ่าที่มาทวงคืนความยุติธรรมให้กับพ่อบุญธรรม

THE BIG 4

“ภารกิจทวงคืนความยุติธรรมให้กับพ่อบุญธรรมของ อดีตนักฆ่าสุดโหด”

ชื่อเรื่อง : THE BIG 4
แนว : แอคชั่น, คอมเมดี้, ระทึกขวัญ
นักแสดงนำ : Abimana Aryasatya,Putri Marino, Lutesha, Arie Kriting, Kristo Immanuel, Marthino Lio, Michelle Tahalea
จำนวนตอน : 141 นาที
ช่องทางออกอากาศถูกลิขสิทธิ์ : Netflix

เรื่องย่อ : THE BIG 4

รีวิว THE BIG 4 ภาพยนตร์ต่อสู้คอมเมดี้สัญชาติอินโดนีเซียที่มีกลิ่นอายหนังไทยเต็มรูปแบบ หากพูดถึงภาพยนต์แนวคอมเมดี้ที่เชื่อว่าหลายคนจะต้องไปถ่ายภาพยนตร์ไทยอย่างแน่นอนเพราะภาพยนตร์ไทยมันขึ้นชื่อเรื่องความตลกและความสนุกสนานอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการเล่าเรื่องราวที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์สามารถจดจำได้อย่างง่ายดาย มันจึงไม่น่าแปลกใจอะไรถามเราได้รับชมภาพยนตร์ที่มีบรรยากาศใกล้เคียงกันมันเลยทำให้เรานึกถึงภาพยนตร์ตลกบ้านเราได้ง่าย

อย่างเช่นภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือ THE BIG 4 มันเป็นภาพยนตร์แนวต่อสู้คอมเมดี้สัญชาติอินโดนีเซียที่มีกลิ่นอายเหมือนกับภาพยนตร์ไทยเป็นอย่างมาก ยิ่งใครได้รับชมแบบฉบับพากย์เสียงยิ่งรู้สึกเหมือนกับว่าเราได้รับชมภาพยนตร์ไทยอยู่ยังไงอย่างนั้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมไปอีก ดังนั้นสำหรับใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์ไทยแนวตลกอยู่แล้วขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะเล่าถึงเรื่องราวของอดีตแก๊งนักฆ่าทั้งหมด 4 คนที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยถูกรับเลี้ยงโดยพ่อบุญธรรมและถูกฝึกฝนให้กลายเป็นนักฆ่ามือฉมัง หน้าที่ของพวกเขาก็คือการรับจ้างกำจัดคนชั่วทั้งหลาย

ทุกอย่างดูเป็นไปด้วยดีจนกระทั่งวันหนึ่งพ่อบุญธรรมของพวกเขาได้จากโลกใบนี้ไป เมื่อไม่มีคนคอยสนับสนุนคุ้มกันเหมือนเดิมอีกต่อไปพวกเขาจึงต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ ตามยถากรรม จนกระทั่งในวันหนึ่งลูกสาวแท้ๆ ของพ่อบุญธรรมที่เคยรับเลี้ยงพวกเขาก็ได้ตามมาเจอตัวพวกเขาในที่สุด ฟังดูเหมือนจะดีแต่ก็ไม่ใช่แต่อย่างใดเพราะดันมีนักฆ่าที่ไล่ล่าเธอตามมาด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องร่วมมือกันในการกลับมาปฏิบัติภารกิจเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับพ่อบุญธรรมของพวกเขาอีกครั้งให้สำเร็จ

บทสรุป : THE BIG 4

THE BIG 4 เป็นภาพยนตร์สัญชาติอินโดนีเซียที่สามารถรับชมได้บน NETFLIX นอกจากนี้มันยังติดอันดับ 1 ในประเทศไทยอีกต่างหาก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเหลือเชื่อหรือน่าแปลกใจอะไรเพราะมันเป็นภาพยนตร์แนวต่อสู้คอมเมดี้ที่น่าจะถูกใจคนไทยหลายๆ คนอยู่แล้ว นอกจากนี้วิถีชีวิตในอินโดนีเซียเองก็ไม่ได้แตกต่างจากในประเทศไทยสักเท่าไหร่ องค์ประกอบทั้งหลายจึงสามารถทำให้ผู้รับชมชาวไทยอย่างเรารู้สึกสนุกสนานตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี มุกตลกเป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้และทำให้เราขำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ มีตั้งแต่มุกการทำไสยศาสตร์

ตัวละครไม่สมประกอบ หรือแม้กระทั่งมุก 2 แง่สองง่าม โดยรวมแล้วถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ขำทุกมุกแต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ตลกดี ในส่วนของการต่อสู้นั้นแค่รับชมก็รู้เลยว่าดัดแปลงมาจากภาพยนตร์เรื่องจอห์น วิคอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นฉากฆ่าแบบโหดหรือแม้แต่มุมกล้องที่ดูเท่ก็ตาม ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ดูเนียนตาถึงขนาดนั้นแต่ก็ทำออกมาได้อย่างสนุกสนานไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังใส่ฉากการต่อสู้เข้ามาค่อนข้างเยอะอีกด้วย แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือการใส่ฉากต่อสู้เข้ามาเยอะจนเกินไปทำให้ภาพยนตร์ดูจะขายฉากการต่อสู้มากกว่าความตลกในเรื่อง รวมไปถึงบทภาพยนตร์ที่ทำออกมายังไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

รับชมไปแล้วก็ยังจับแก่นสารไม่ค่อยได้ทั้งที่ในช่วงแรกนั้นถือว่าเปิดตัวออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ดูเหมือนจะมีอะไรลึกลับซับซ้อนและเต็มไปด้วยปริศนา แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ลงเอยด้วยความเละเทะเหมือนเอาฮาไร้เหตุผลอยู่ดี โดยเฉพาะตัวละครนางเอกที่ในช่วงแรกเปิดตัวออกมาดูเคร่งขรึมแต่พอเข้าสู่ช่วงหลังทั้งพฤติกรรมและบุคลิกกลับเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกับเป็นคนละคนเสียอย่างนั้น อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่สามารถรับชมได้ง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรตามมากมายเหมาะสำหรับรับชมในวันที่ไม่อยากจะใส่อะไรหนักๆ เข้าไปในหัว